ชื่อเต็ม รีการ์ดู อีเซกซง ดุส ซังตุส เลย์ซี
วันเกิด 22 เมษายน ค.ศ. 1982 (33ปี)
สถานที่เกิด บราซิเลีย ประเทศบราซิล
ส่วนสูง 186 เซนติเมตร
เท้าที่ถนัด เท้าขวา
ตำแหน่ง กองกลางตัวรุก
สโมสรปัจจุบัน เซาเปาโล
ประวัติของนักเตะ
กาก้า หรือริคาร์โด้ ลเซ็คซอน ดอส ซานโตส เลยเต้ ซึ่งชื่อ "กาก้า" เป็นชื่อตามสำเนียงโปรตุเกสที่จะมีเครื่องหมายแอคเซนต์(Kaka)ที่ได้รับมาจากน้องชายคนเล็กที่ชื่อโรดิโก้ตั้งแต่สมัยตอนเด็กๆเพราะน้องชายไม่สามารถจะเรียกชื่อจริงว่าพี่ริคาร์โด้ได้ก็เลยเรียกง่ายๆว่ากาก้าแทน เพียงแต่เปลี่ยนจากที่เขียนในสมัยเด็กๆของเขาว่าCacaเป็นKakaแทนในตอนโต (นอกจากนี้ดิเกาน้องชายคนเล็กของกาก้ายังได้ย้ายตามมาเล่นฟุตบอลในประเทศอิตาลีกับเขาด้วย)
สำหรับชาวบราซิลแล้ว กาก้า เขาก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของนักเตะชาวบราซิลเลียน และทีมลาอย่างเซเลเซา เนื่องจากเกิดและโตในครอบครัวที่ค่อนข้างมีฐานะไม่เหมือนกับนักเตะคนอื่นๆที่อยู่ทีมร่วมกันซึ่งมาจากฐานะที่ลำบากยากจนกว่าถึงอย่างไรก็ตามความแตกต่างทางฐานะก็ไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใดเนื่องจากเรย์เต้เขาเองก็มีความรักในเกมลูกหนังและทุ่มเทเพื่อความฝันไม่น้อยกว่าใคร
เรย์เต้เกิดมาในทีมยอดนิยมอันดับหนึ่งของชาวแซมบ้าเกือบทุกยุคทุกสมัยคือเซาเปาโลซึ่งเขาได้เริ่มต้นลงสนามเกมแรกตั้งแต่อายุ 18 ปีและสร้างปรากฏการณ์ด้วยการจ้วงประตูไปได้12ประตูจากการลงเล่น 27นัด ในฤดูกาลแรกและอีก 10 ประตูจากการลงเล่น22นัดในฤดูกาลที่สองของชีวิตกาก้าซึ่งนับเป็นการแจ้งเกิดที่สุดแสนมหัศจรรย์สำหรับนักเตะที่เคยเกือบจะหมดอนาคตทางการเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาแล้ว
ซึ่งก่อนหน้านี้ที่จะได้ลงสนามแจ้งเกิดกับเซา เปาโล กาก้า เคยประสบอุบัติเหตุร้ายแรงในสระน้ำจนเกือบจะเป็นอัมพาตเพราะกระดูกสันหลังมีรอยร้าวซึ่งแต่สุดท้ายด้วยกำลังใจที่แข็งแกร่งเขาก็กลับมาลงสนามได้ในอีก1ปีต่อมาได้ราวกับการ์ตูน
เกมนัดเป็นเกมนัดชิงชนะเลิศ ทอร์เนโร่ริโอ คัพเป็นบอลถ้วยรุ่นเยาวชนและกาก้า ที่เกือบเป็นอัมพาตก็ได้รับโอกาสจากโค้ชให้ลงสนามเมื่อเหลือเวลาอีกประมาน14 นาทีสุดท้าย ขณะที่นักพากย์ข้างสนามตะโกนหาว่าโค้ชเซา เปาโลเขาคงจะบ้าไปแล้วแต่ว่าไม่น่าเชื่อแค่2นาทีที่ได้สัมผัสเกม กาก้า ก็ทำ 2 ประตูได้ทันที และนำพาชัยชนะให้กับทีม พนันบอลออนไลน์
หลังจากชัยชนะครั้งนี้ริคาร์โด้เรย์เต้เขาได้อุทิศชัยชนะให้แก่พระเจ้าและอุทิศตัวให้กับศาสนาคริสต์นับแต่นั้นเป็นต้นมาในเวลาต่อมาเขาก็ได้กลายเป็นนักฟุตบอลตัวอย่างที่เคร่งครัดในศาสนา เนื่องจากเชื่อว่าพระเจ้าได้ประทานชีวิตใหม่ให้แก่เขาหลังเกือบตายทั้งเป็นจากการเป็นอัมพาตจวบจนทุกวันนี้ก็ยังมีการลักคำว่า I belong to Jesusซึ่งเป็นคติประจำใจไว้บนลิ้นรองเท้าสตั๊ดของอาดิดาสอีกด้วย(ซึ่งเป็นสปอนเซอร์)และยังพกไบเบิ้ลอ่านเสมอๆยามว่าง
อย่างไรก็ดีริคาร์โด้กาก้าเกือบไม่มีโอกาสเล่นให้กับเซา เปาโล อีกครั้งเมื่อถูกตกลงขายให้กับทีมอย่างกาเซียนเทปสปอร์ สโมสรในดิวิชั่น 1 ตุรกี แต่สุดท้ายการเจรจาก็ล่มไปเพราะทีมจากแดนไก่งวงไม่อยากจ่ายเงินจำนวนถึง1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับนักเตะที่มีอายุแค่ 17 ปีเท่านั้นแต่เขาก็ยังไม่เคยลงเล่นในทีมชุดใหญ่เลย ซึ่งเชื่อว่ากาเซียนเทปสปอร์จนทุกวันนี้เขายังเสียใจอยู่เลย
เพราะหลังจากนั้น กาก้า ก็แจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัว2 ฤดูกาลกับเซา เปาโล และได้ติดทีมชาติบราซิล ชุดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในปี2002 ด้วย ก่อนจะถูกทีม "ปีศาจแดงดำ" เอซี มิลาน ซื้อมาร่วมทีมด้วยค่าตัวแค่เล็กน้อย8.5 ล้านดอลลาร์ ซึ่งซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี่ เจ้าของทีมรอสโซเนรี่ได้บอกว่าถูกเหมือนซื้อ "ถั่วกระป๋อง"
เหตุผลก็เพราะ กาก้า สามารถสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้แก่วงการฟุตบอลอิตาลีที่ตอนนั้นกำลังเริ่มซบเซาด้วยการเป็นดาวดวงใหม่ที่โผล่ขึ้นมาจรัสแสงได้อย่างไม่น่าเชื่อจากลีลาการเล่นอันสุดมหัศจรรย์ และยังมีหน้าตาที่หล่อเหลาราวกับเทพบุตรในตอนจบฤดูกาลแรกกาก้า ก็กลายเป็นกำลังสำคัญที่พามิลาน คว้าได้ทั้งสคูเด็ตโต้หรือที่รู้กันทั่วโลกก็คือแชมป์กัลโช่เซเรียอา(ฟุตบอลลีกสูงสุดของประเทศอิตาลี)และถ้วยใหญ่อย่างยูโรเปี้ยนซูเปอร์ คัพ พร้อมผลงาน 10 ประตูจากการเล่น 30 นัดในลีก พนันบอลออนไลน์
ริคาร์โด้ เรย์เต้ก้าวขึ้นมาเป็นขวัญใจคนใหม่ของชาวเมืองมิลานโดยในบทบาทของเพลย์เมคเกอร์ที่คอยให้การสนับสนุนอังเดร เชฟเชนโก้และเขาก็ยังคงเล่นได้อย่างโดดเด่นในฤดูกาลต่อมาด้วยผลงาน 7 ประตูจากการลงเล่นทั้งหมด36 นัด และพาทีมคว้าแชมป์อิตาเลี่ยน ซูเปอร์ คัพ ได้ด้วย แต่น่าเสียดายที่มิลานได้จบฤดูกาลลงด้วยการเป็นรองแชมป์ในฤดูกาลที่สองของเขา และยังพลาดการเป็นแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพลงด้วยความปราชัยแบบเหลือเชื่อต่อลิเวอร์พูล ทั้งที่เกมนั้นริคาร์โด้เรย์เต้ก็ได้ร่ายเพลงแข้งที่น่าตื่นตาตื่นใจตลอด 45 นาทีแรกในสนามที่ไม่มีนักเตะลิเวอร์พูลคนไหนหยุดเขาได้
ต่อมาในฤดูกาลนั้นริคาร์โด้ เรย์เต้ก็ได้รับเลือกให้เป็นกองกลางที่ดีที่สุดของรายการยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ก่อนที่ฤดูกาลต่อมาเขาจะทำประตูสุดมหัศจรรย์ที่กูรูลูกหนังยกย่องเทียบกับตำนานเทพเจ้าลูกหนังอาร์เจนไตน์ เสือเตี้ยดีเอโก้ มาราโดน่า กับประตูที่กาก้า เริ่มต้นวิ่งจากกลางสนามหลบคู่แข่งไปได้ถึง3คนก่อนจะเข้าถึงเขตโทษและซัดเรียดเข้าประตูไปอย่างสุดคลาสสิคเชื่อว่าเป็นประตูที่แฟรบอลหลายๆคนจะจดจำเขาไว้ในใจตลอดมา
ยังไม่หมดเพียงเท่านั้นนอกเหนือจากประตูนี้ กาก้า ยังมักสร้างความตะลึงให้กับแฟนๆด้วยการทำประตูสวยๆแบบที่น่าเหลือเชื่อเสมอ โดยเฉพาะการอัดบอลเต็มหลังเท้าที่หนักหน่วงอย่างไม่น่าเชื่อโดยไม่จำเป็นต้องง้างเท้านานๆแต่อย่างใด
หลังจากนั้น ริคาร์โด้ ก็ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในโลก และกลายเป็นหนึ่งในสี่จตุรเทพของทีมชาติบราซิล ในฟุตบอลโลก 2006ที่ประเทศเยอรมัน แต่น่าเสียดายที่เขา ,โรนัลดินโญ่ ,โรนัลโด้ และอาเดรียโน่ซึ่งทั้งสี่คนได้ทำเต็มที่แล้วแต่ไม่สามารถคว้าแชมป์โลกมาครองได้เนื่องจากทีมเซเลเซา เล่นกันได้ไม่เป็นสับปะรดทั้งทีม
ต่อมาในฤดูกาลนี้ผลงานของกาก้าอาจจะไม่โดดเด่นนักเนื่องจากทีมต้นสังกัดเอซีมิลานก็ไม่ได้ทำผลงานดีอะไรมากมาย แต่กระนั้นก็ยังมีข่าวลือสะพัดกับทีม"ราชันชุดขาว"อย่างเรอัล มาดริดที่อยากได้ตัวไปร่วมทีมในฤดูกาลหน้าในขณะที่ทางรอสโซเนรี่ก็ได้พยายามทำทุกทางขัดขวางทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้เสียนักเตะที่เก่งที่สุดของทีมไป
ในเรื่องชีวิตส่วนตัว กาก้า หักอกสาวๆทั่วโลกเพราะได้เข้าพิธีวิวาห์กับสาวสวยคาโรลิน เซลิโก้ ภรรยาสาวที่พบรักกันมาตั้งแต่สมัยที่กาก้าเขายังเป็นนักเตะเยาวชนในทีมเซา-เปาโลซึ่งในพิธีวิวาห์เมื่อวันที่23 ธ.ค. 2005 ก็มีสักขีพยานเป็นยอดนักเตะทีมชาติบราซิล อย่างโรนัลโด้,คาฟู,อาเดรียโน่,ดีด้า,ชูลิโอ บาปติสต้า และคาร์ลอสกับอัลแบร์โต้ ปาร์เรยร่าและสักขีพยานอีกหลายคนที่มาเป็นเกียรติจนแน่นโบสถ์คริสต์ อีกราว 600 คนด้วยกัน
เรย์เต้คือโกลเด้นบอยตัวจริงของวงการฟุตบอลในยุคนี้และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดและนี่คือหนึ่งในนักฟุตบอลที่ได้รับการยกย่องว่ามีโอกาสจะเป็น"ราชาลูกหนัง"คนใหม่ที่หล่อที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ฟุตบอลซึ่งเขาได้รับสมยานามว่า"เทพบุตรแห่งวงการลูกหนัง"ด้วยฟอร์มการเล่นที่แพราพราวของเขาทำให้สโมสรยักษ์ใหญ่หลายๆทีมจับจ้องมาที่กาก้าเราจะมาดูที่ฝีเท้าอย่างเดียวก็ไม่ได้เพราะเขามีหน้าตาอันหล่อเหลาเลยทีเดียวทำให้แฟนบอลไม่ว่าสาวน้อยสาวใหญ่ต่างพากันชื่นชอบดาวเตะคนนี้
สโมสรอาชีพ
เซาเปาโล
กาก้าเติบโตมากับทีมยอดนิยมหมายเลขหนึ่งของบราซิลเกือบทุกยุคทุกสมัยคือเซาเปาลูโดยได้เริ่มต้นลงสนามเกมแรกตั้งแต่อายุเพียง18 ปี และสร้างปรากฏการณ์ด้วยการทำได้ถึง 12 ประตูจากการลงเล่นแค่27 นัดในฤดูกาลแรกและอีก 10 ประตูจาก 22 นัดในฤดูกาลที่สองของชีวิตเขาและนั่นเป็นการแจ้งเกิดที่มหัศจรรย์สำหรับนักฟุตบอลที่เกือบจะหมดอนาคตกับการเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาแล้วจนในที่สุดโดยก่อนหน้าที่จะลงสนามแจ้งเกิดกับเซาเปาลู กาก้าเคยประสบอุบัติเหตุร้ายแรงในสระน้ำจนเกือบเป็นอัมพาตเพราะกระดูกสันหลังมีรอยร้าวแต่แล้วสุดท้ายด้วยกำลังใจที่แข็งแกร่งเขาก็กลับมาลงสนามได้ในอีก1ปีต่อมาได้ราวกับเทพในเกมนัดเป็นเกมนัดชิงชนะเลิศทอร์เนโร่ ริโอคัพซึ่งเป็นเกมการแข่งขันระดับทีมเยาวชน และกาก้าที่เกือบเป็นอัมพาตได้รับโอกาสจากโค้ชให้ลงสนามเมื่อเหลือเวลาเพียงแค่14 นาทีสุดท้าย ขณะที่นักพากย์ข้างสนามตะโกนหาว่าโค้ชเซาเปาลูคงจะบ้าไปแล้วแต่ไม่น่าเชื่อแค่2นาทีที่ได้สัมผัสเกม กาก้าก็ทำ 2 ประตูได้ทันที และนำพาชัยชนะให้กับทีมเมื่อหลังจากชัยชนะครั้งนี้ กาก้าได้อุทิศชัยชนะให้แก่พระเจ้า และอุทิศตัวให้กับศาสนาคริสต์นับแต่นั้นเป็นต้นมาและในวันต่อมาเขาก็กลายเป็นนักฟุตบอลตัวอย่างที่เคร่งครัดในศาสนาเพราะว่าเขาเชื่อมาตลอดว่าพระเจ้าได้ประทานชีวิตใหม่ให้แก่เขาหลังเกือบตายทั้งเป็นจากการเป็นอัมพาต และปัจจุบันก็ยังมีการลักคำว่า I belong to Jesus และGodisfaithful ซึ่งเป็นคติประจำใจไว้บนลิ้นรองเท้าสตั๊ดของอาดิดาสซึ่งเป็นสปอนเซอร์แล้วเขาก็ยังพกไบเบิ้ลอ่านเสมอๆไม่ว่าอย่างไรก็ตามริคาร์โด้กาก้าเกือบไม่มีโอกาสเล่นให้กับเซาเปาลูอีกครั้งเมื่อถูกตกลงขายให้กับทีมกาเซียนเทปสปอร์สโมสรในดิวิชัน1ของประเทศตุรกี แต่สุดท้ายการเจรจาก็ล่มไปเพราะว่าทีมกาเซียนเทปสปอร์ไม่อยากจ่ายเงินจำนวนเพียง1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับนักเตะที่มีอายุแค่ 17 ปีเท่านั้นแต่แล้วเขาก็ยังไม่เคยลงเล่นในทีมชุดใหญ่เลย ซึ่งเชื่อว่ากาเซียนเทปสปอร์ก็คงจะเสียใจอยู่ในทุกวันนี้แล้วหลังจากนั้น กาก้าก็แจ้งเกิดได้เต็มตัวใน 2 ฤดูกาลกับเซาเปาลู พนันบอลออนไลน์
สโมสร เอซี มิลาน
ริคาร์โด้กาก้าสามารถสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้แก่วงการฟุตบอลอิตาลี(กัลโซ่เซเรียอา)ด้วยการเป็นดาวดวงใหม่ที่โผล่ขึ้นมาจรัสแสงได้อย่างไม่น่าเชื่อด้วยลีลาการเล่นที่สุดมหัศจรรย์แถมเขายังมีหน้าตาที่หล่อเหลาราวกับเทพบุตรซึ่งจบฤดูกาลแรกกาก้ากลายเป็นผู้เล่นสำคัญที่พาสโมสรฟุตบอลเอซีมิลานคว้าได้ทั้งสกูเดตโตหรือว่าแชมป์กัลโชเซเรียอาและบอลถ้วยใหญ่อย่างยูโรเปี้ยนซูเปอร์คัพพร้อมผลงาน 10 ประตูจากการเล่น 30 นัดในลีกกัลโชเซเรียอา
เรย์เต้ก้าวขึ้นมาเป็นขวัญใจคนใหม่ของชาวเมืองมิลานในบทบาทของเพลย์เมกเกอร์ที่คอยให้การสนับสนุนอังเดรเชฟเชนโกและยังคงเล่นได้อย่างโดดเด่นในฤดูกาลต่อมาด้วยผลงานการยิง7 ประตูจาก 36 นัด และพาทีมคว้าแชมป์อิตาเลียนซูเปอร์คัพได้ด้วยแต่เป็นที่น่าเสียดายที่มิลานจบฤดูกาลด้วยการเป็นรองแชมป์ในฤดูกาลที่สองของเขาแล้วก็ยังพลาดการเป็นแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ด้วยความปราชัยแบบเหลือเชื่อต่อลิเวอร์พูลในทั้งที่เกมนั้นกาก้าได้ร่ายเพลงแข้งที่น่าตื่นตาตื่นใจตลอดทั้ง45 นาทีแรกในสนามและในฤดูกาลนั้น กาก้าได้รับเลือกให้เป็นกองกลางที่ดีที่สุดของรายการยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเมื่อก่อนที่ฤดูกาลต่อมาเขาจะทำประตูสุดมหัศจรรย์ที่ถูกยกย่องเทียบกับตำนานเทพเจ้าลูกหนังอาร์เจนไตน์เดียโก มาราโดนา กับประตูที่กาก้าเริ่มต้นวิ่งจากกลางสนาม หลบคู่แข่งถึง3 คน ก่อนจะเข้าถึงเขตโทษและซัดเรียดเข้าประตูไปอย่างสุดคลาสสิกมากในเกมที่พบกับทีมอย่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดนอกเหนือจากประตูนี้กาก้ายังมักสร้างความตะลึงให้กับแฟนๆกับการทำประตูสวยๆเสมอหลังจากนั้นกาก้าได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในโลก พนันบอลออนไลน์
สโมสร เรอัล มาดริด
เมื่อเขาได้ย้ายมายังถิ่นซานดิเอโก้ เบอร์นาบิวเขาก็ได้โชว์ฟอร์มอันน่าตื่นตาตื่นใจให้กับแฟนๆชาวสเปนโดยสามารถเป็นตัวทำเกมทำประตูและทำทุกอย่างให้กับทีมราชันอย่างคุ้มราคาที่ย้ายมาซึ่งยุคนั้นเขาได้ร่วมงานกับนักเตะหลายคนมากหน้าหลายตา เป็นทีมที่ฟูลสุดๆในยุคนั้นโดยอาการบาดเจ็บและด้วยวัยอายุที่เพิ่มขึ้นทำให้เขาถูกดร็อปไว้ข้างสนามบ้างลงเป็นตัวสำรองบ้างเลยทำให้เขาเริ่มไม่ได้โชว์ผลงานจนในที่สุดเขาได้ไม่ค่อยได้ลงเล่นให้กับมาดริดและจึงได้ย้านกับไปที่เซาเปาโลสโมสรเดิมที่เขาเริ่มเล่นฟุตบอล
ทีมชาติ
ฟุตบอลโลก 2002
กาก้าติดทีมชาติบราซิลในชุดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2002 ที่ประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ด้วย หลังจากนั้นริคาร์โด้ถูกทีมยักษ์ใหญ่แห่งอิตาลีอย่างสโมสรฟุตบอลเอซีมิลานซื้อมาร่วมทัพด้วยค่าตัวเพียงแค่8.5ล้านดอลลาร์โดยซึ่งซิลวีโอ แบร์ลุสโกนี เจ้าของทีมรอสโซเนรี บอกว่าถูกเหมือนซื้อ "ถั่วกระป๋อง"
ฟุตบอลโลก 2006
ริคาร์โด้ เรย์เต้เป็น 1 ใน 4 ดาวดังของทีมชาติบราซิลในฟุตบอลโลก2006ที่ประเทศเยอรมนีแต่น่าเสียดายที่เขากับโรนัลดินโญกับโรนัลโดและอาเดรียโนช่วยกันเล่นเต็มที่จนสุดความสามารถแล้วแต่ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาครองได้
ชีวิตส่วนตัว
ในเรื่องชีวิตส่วนตัวนายก้าหักอกสาวน้อยสาวใหญ่ทั่วโลกเพราะได้เข้าพิธีวิวาห์กับคาโรลิน เซนริโก้ภรรยาสาวที่พบรักกันมาตั้งแต่สมัยที่กาก้ายังเป็นนักเตะเยาวชนในทีมเซาเปาโลซึ่งในพิธีวิวาห์เมื่อวันที่23 ธันวาคม ค.ศ. 2005 ก็มีสักขีพยานเป็นยอดนักเตะทีมชาติบราซิลอย่างโรนัลโด,คาฟู,อาเดรียโน,ดีดาและชูลิโอ-บัปติสตาและคาร์ลอส อัลแบร์โต-ปาร์เรย์ราและสักขีพยานที่มาเป็นเกียรติจนแน่นโบสถ์คริสต์อีกราว 600 คนด้วยกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น