วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ประวัติของ คริส วอนโดลอฟสกี้

พนันบอลออนไลน์




ประวัติของ คริส วอนโดลอฟสกี้




ข้อมูลส่วนตัว


ชื่อจริง คริส วอน โดลอฟสกี้


เกิดวันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 1983 (อายุ 32 ปี)


สถานที่เกิด เมือง แดนวิลล์ แคลิฟอร์เนีย ประเทศ สหรัฐอเมริกา


สัญชาติ สหรัฐอเมริกา


ส่วนสูง 183 ซม.


น้ำหนัก 75 กก.


ตำแหน่ง กองหน้า


สโมสรปัจจุบัน ซานโฮเซ


หมายเลขเสื้อ เบอร์ 8


เงินเดือน 300,000 USD


เส้นทางการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ


คริส วอนโดลอฟสกี้ เขาเป็นนักเตะสัญชาติสหรัฐอเมริกา ในปัจจุบันเขาให้เล่นให้กับสโมสร ซานโฮเซ ในศึกลูกหนัง เมเจอร์ ลีก ซ็อคเกอร์ สหรัฐอเมริกา และทีมชาติ สหรัฐอเมริกา และเขาก็ยังเป็นกองหน้าที่สามารถคว้ารางวัลดาวซัลโวสูงสุดของลีกได้ 2 ซีซั่น นั่นก็คือฤดูกาลที่ 2010 และ 2012 และนี่เองที่ทำให้เขากลายเป็นนักเตะระดับแนวหน้าของ เมเจอร์ ลีก ซ็อคเกอร์ วอนโดลอฟสกี้ เขาเคยลงเล่นให้กับทีมไฮสคูลซ็อคเกอร์ที่ เดอ ลา ซาล ไฮสคูล ของเมือง คอนคอร์ด รัฐแคลิฟอร์เนีย ด้วยผลงานที่เขาสามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาล 2000 - 2001 นั่นก็ทำให้เขาได้รับรางวัล "ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปี" พนันบอลออนไลน์  เมื่อปี ค.ศ. 2011จากการโหวตของสื่อท้องถิ่น หลังจากที่เขาได้เรียนจบจากไฮสคูล เขาก็ได้ย้ายไปเล่นให้กับสโมสร ชิคาโก้ สเตท ยูนิเวอร์ซิตี้ และเขาสามารถพังประตูไปได้ทั้งหมด 39 ลูก จากการลงสนามทั้งหมด 84 แมตช์ และได้พาทีม "ชิคาโก้ร้คส์" เลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกสูงสุดในปี ค.ศ. 2004 จากการที่เขาสามารถถลุงประตูไปคนเดียว 17 ประตู เมื่อฤดูกาลที่ 2005 วอนโดลอฟสกี้ ได้เลือกใส่หมายเลข 41 ในการดราฟท์ของปี 2005 และก็เป็นทางด้านของ ซานโฮเซ เอิร์ธเควกส์ ที่สามารถคว้าตัวเขาไปร่วมทัพได้สำเร็จ ถึงแม้ว่าดาวยิงรายนี้จะสามารถลงเล่นให้กับทีมต้นสังกัดได้เพียงแค่ 2 นัดเท่านั้น แต่ทว่าในทีมชุดสำรองเขาสามารถยิงได้ถึง 8 ประตูจากการลงเล่น 12 นัด เมื่อฤดูกาลที่ 2006 - 2009 เขาได้ตัดสินใจย้ายไปร่วมทัพกับสโมสร ฮุสตัน ไดนาโม เมื่อปี ค.ศ. 2006 และเขาได้ลงสนามให้กับทีมสำรองไป 11 นัด แต่เขาสามารถยิงไปได้ถึง 13 ลูกเลยทีเดียว และประตูแรกในลีกของเขาก็เกิดชึ้น ในนัดที่ทีมต้นสังกัดของเขาได้พบกับชิคาโก้ ไฟเออร์ ในวันที่ 30 สิงหาคม ค.ศ. 2006 โดยเขายิงประตูได้ในนาทีที่ 18 และทำให้ทีมชนะไปในนัดนั้น


เมื่อฤดูกาลที่ 2007 เขาได้ถลุงประตูในรายการ คอนคาเคฟ แชมเปี้ยนส์ คัพ ในรอบรองชนะเลิศ โดยพบกับทีม ปาชูก้า แต่ทีมของเขาก็ต้องออกหักตกรอบไปในที่สุด ภายหลังจากนั้นต่อมาเขาก็สามารถยิงประตูแรกได้ในรายการ ยูเอส โอเพ่น คัพ โดยในเกมนั้นทีมเขาได้เอาชนะ เอฟซี ดัลลัส ไปด้วยสกอร์ 3 - 0 เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ในปีเดียวกันนั่นเอง ในซีซั่นที่ 2008 เขายังคงได้รับโอกาศในการลงสนามอย่างต่อเนื่อง อยู่ในทีมสำรองและยังได้ลงกับทีมใหญ่ในรายการต่างๆ และเขายังคงได้รับความไว้วางใจให้เป็นกัปตันทีม ในนัดที่พ่ายให้กับ ชาร์เลสตัน แบทเตอรี่ ในรายการแข่งขัน ยูเอส โอเพ่น คัพ และเขาก็ได้สร้างความน่าทึ่ง ด้วยการที่เขาเหมายิงคนเดียวไป 4 ประตู ในเกมการแข่งขันกับทีม นิวยอร์ค เร้ดบลูล์ส เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ค.ศ. 2009 และนั่นยังเป็นประตูที่ 7,000 ของประวัติศาสตร์ เมเจอร์ ซ็อคเกอร์ ลีก อีกต่างหาก และหลังจากนั้น วอนโดลอฟสกี้ เขาก็ได้ถูกส่งตัวมาให้กับทีม ซานโฮเซ ได้ใช้งานด้วยสัญญาการแลกตัวกับทาง แคม วีเวอร์ เมื่อเดือน มิถุนายน ค.ศ. 2009 พนันบอลออนไลน์ และจากการย้ายตัวในครั้งนี้เขาได้มีโอกาศลงเล่นให้กับทีมสโมสรใหม่มากขึ้น โดยเขาได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่ไป 14 แมตช์ และสามารถทำประตูไปได้ 3 ประตู ให้กับทีมซานโฮเซ และในปี ค.ศ. 2010 เขาสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น ด้สยการที่เขายิงไปทั้งหมด 18 ประตู จากการลงเล่น 26 นัด ในศึกฟุตบอล เมเจอร์ ลีก ซ็อคเกอร์ และได้พาทีมต้นสังกัดผ่านเข้าสู่รอบ เพลย์ออฟ โดยทั้ง 18 ลูก ที่เขาสามารถยิงได้นั้นทำให้เขาได้กลายเป็น ดาวยิงสูงสุดของลึกในฤดูกาลนั้นอีกด้วย และยังคว้ารางวัลรองเท้าทองคำติดมือกลับบ้านไป นอกจากนี้เขายังเป็นคนที่สามารถซัดประตูชัยในนัดเพลย์ออฟ ทำให้ทีมต้นสังกัดเอาชนะสโมสร นิวยอร์ค 3 - 2



สุดยอดหัวหอก คริส วอนโดลอฟสกี้ เขาเป็นนักเตะสัญชาติสหรัฐอเมริกา ในปัจจุบันเขาให้เล่นให้กับสโมสร ซานโฮเซ ในศึกลูกหนัง เมเจอร์ ลีก ซ็อคเกอร์ สหรัฐอเมริกา และทีมชาติ สหรัฐอเมริกา และเขาก็ยังเป็นกองหน้าที่สามารถคว้ารางวัลดาวซัลโวสูงสุดของลีกได้ 2 ซีซั่น นั่นก็คือฤดูกาลที่ 2010 และ 2012 และนี่เองที่ทำให้เขากลายเป็นนักเตะระดับแนวหน้าของ เมเจอร์ ลีก ซ็อคเกอร์ วอนโดลอฟสกี้ เขาเคยลงเล่นให้กับทีมไฮสคูลซ็อคเกอร์ที่ เดอ ลา ซาล ไฮสคูล ของเมือง คอนคอร์ด รัฐแคลิฟอร์เนีย ด้วยผลงานที่เขาสามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาล 2000 - 2001 นั่นก็ทำให้เขาได้รับรางวัล "ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปี" พนันบอลออนไลน์  เมื่อปี ค.ศ. 2011จากการโหวตของสื่อท้องถิ่น หลังจากที่เขาได้เรียนจบจากไฮสคูล เขาก็ได้ย้ายไปเล่นให้กับสโมสร ชิคาโก้ สเตท ยูนิเวอร์ซิตี้ และเขาสามารถพังประตูไปได้ทั้งหมด 39 ลูก จากการลงสนามทั้งหมด 84 แมตช์ และได้พาทีม "ชิคาโก้ร้คส์" เลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกสูงสุดในปี ค.ศ. 2004 จากการที่เขาสามารถถลุงประตูไปคนเดียว 17 ประตู เมื่อฤดูกาลที่ 2005 วอนโดลอฟสกี้ ได้เลือกใส่หมายเลข 41 ในการดราฟท์ของปี 2005 และก็เป็นทางด้านของ ซานโฮเซ เอิร์ธเควกส์ ที่สามารถคว้าตัวเขาไปร่วมทัพได้สำเร็จ ถึงแม้ว่าดาวยิงรายนี้จะสามารถลงเล่นให้กับทีมต้นสังกัดได้เพียงแค่ 2 นัดเท่านั้น แต่ทว่าในทีมชุดสำรองเขาสามารถยิงได้ถึง 8 ประตูจากการลงเล่น 12 นัด เมื่อฤดูกาลที่ 2006 - 2009 เขาได้ตัดสินใจย้ายไปร่วมทัพกับสโมสร ฮุสตัน ไดนาโม เมื่อปี ค.ศ. 2006 และเขาได้ลงสนามให้กับทีมสำรองไป 11 นัด แต่เขาสามารถยิงไปได้ถึง 13 ลูกเลยทีเดียว และประตูแรกในลีกของเขาก็เกิดชึ้น ในนัดที่ทีมต้นสังกัดของเขาได้พบกับชิคาโก้ ไฟเออร์ ในวันที่ 30 สิงหาคม ค.ศ. 2006 โดยเขายิงประตูได้ในนาทีที่ 18 และทำให้ทีมชนะไปในนัดนั้น พนันบอลออนไลน์ 


เขาได้ถลุงประตูในรายการ คอนคาเคฟ แชมเปี้ยนส์ คัพ ในรอบรองชนะเลิศ โดยพบกับทีม ปาชูก้า แต่ทีมของเขาก็ต้องออกหักตกรอบไปในที่สุด ภายหลังจากนั้นต่อมาเขาก็สามารถยิงประตูแรกได้ในรายการ ยูเอส โอเพ่น คัพ โดยในเกมนั้นทีมเขาได้เอาชนะ เอฟซี ดัลลัส ไปด้วยสกอร์ 3 - 0 พนันบอลออนไลน์ เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ในปีเดียวกันนั่นเอง ในซีซั่นที่ 2008 เขายังคงได้รับโอกาศในการลงสนามอย่างต่อเนื่อง อยู่ในทีมสำรองและยังได้ลงกับทีมใหญ่ในรายการต่างๆ และเขายังคงได้รับความไว้วางใจให้เป็นกัปตันทีม ในนัดที่พ่ายให้กับ ชาร์เลสตัน แบทเตอรี่ ในรายการแข่งขัน ยูเอส โอเพ่น คัพ และเขาก็ได้สร้างความน่าทึ่ง พนันบอลออนไลน์ ด้วยการที่เขาเหมายิงคนเดียวไป 4 ประตู ในเกมการแข่งขันกับทีม นิวยอร์ค เร้ดบลูล์ส เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ค.ศ. 2009 และนั่นยังเป็นประตูที่ 7,000 ของประวัติศาสตร์ เมเจอร์ ซ็อคเกอร์ ลีก อีกต่างหาก และหลังจากนั้น วอนโดลอฟสกี้ เขาก็ได้ถูกส่งตัวมาให้กับทีม ซานโฮเซ ได้ใช้งานด้วยสัญญาการแลกตัวกับทาง แคม วีเวอร์ เมื่อเดือน มิถุนายน ค.ศ. 2009  และจากการย้ายตัวในครั้งนี้เขาได้มีโอกาศลงเล่นให้กับทีมสโมสรใหม่มากขึ้น โดยเขาได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่ไป 14 แมตช์ และสามารถทำประตูไปได้ 3 ประตู ให้กับทีมซานโฮเซ และในปี ค.ศ. 2010 เขาสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น ด้สยการที่เขายิงไปทั้งหมด 18 ประตู จากการลงเล่น 26 นัด ในศึกฟุตบอล เมเจอร์ ลีก ซ็อคเกอร์ และได้พาทีมต้นสังกัดผ่านเข้าสู่รอบ เพลย์ออฟ โดยทั้ง 18 ลูก ที่เขาสามารถยิงได้นั้นทำให้เขาได้กลายเป็น ดาวยิงสูงสุดของลึกในฤดูกาลนั้นอีกด้วย และยังคว้ารางวัลรองเท้าทองคำติดมือกลับบ้านไป นอกจากนี้เขายังเป็นคนที่สามารถซัดประตูชัยในนัดเพลย์ออฟ























พนันบอลออนไลน์ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น